จดหมายประจำปีถึงผู้เล่น　Wild Rift

ความดุดัน = นวัตกรรม

ในขณะที่เราจะปิดฉากปี 2024 ลง คิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้มองภาพกว้างขึ้นว่าตอนนี้เรากับ Wild Rift ยืนอยู่ตรงไหน และเปิดวอร์ดดูว่าเราจะมุ่งหน้าไปทางไหนกัน นั่งอ่านสบาย ๆ ได้เลยเพราะนี่คงจะเป็นโพสต์ที่ยาวมาก ๆ เพราะเราอยากจะให้คุณได้เห็นหลังบ้านเพื่อเจาะลึกถึงหลักปรัชญาและการออกแบบของเรา นี่เป็นครั้งแรกที่เราพยายามเจาะลึกในรูปแบบนี้ กรุณาส่งความคิดและข้อเสนอแนะของคุณมาให้เราฟังด้วย เพราะเราหาโอกาสที่จะทำการสื่อสารแบบนี้มากขึ้นในอนาคต 

ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน

เรื่องราวของ Wild Rift เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวอย่างอลังการ ตามหลัง IP ของ League of Legends ออกมา แต่จากนั้น เราก็ได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญมากมายว่าต้องทำยังไงถึงจะเป็นเกมที่ดีบนมือถือได้:

• คุณภาพชีวิตพื้นฐาน เช่น เครือข่ายและการล็อกอิน

• จำนวนคอนเทนต์เพื่อตอบสนองแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

• ประเภทเกมเพลย์ที่เหมาะกับผู้ชื่นชอบเกมมือถือ

หลังจากการเปิดตัว เราก็ประสบกับช่วงเวลาถดถอยที่เราจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ข้างบนได้ยาก ช่วงเวลานั้นมันน่ากลัวแต่ก็เหมือนแสงส่องทางด้วยเช่นกัน มันทำให้เรามุ่งเน้นไปยังสิ่งสำคัญที่สุดต่อพวกคุณ ในระหว่างการปรับแต่งตำแหน่งที่คนเล่นน้อย ลดกรณีพิเศษที่ทำลายเกมทั้งเกม หรือทุ่มเทลงไปกับ “คอนเทนต์แรกของ Wild Rift” เราก็สร้างความเสถียรและเริ่มเติบโตขึ้นมาได้อีกครั้ง 

เราไม่ได้อยู่เฉย ๆ หลังมีความมั่นคงและการเติบโตเมื่อเร็ว ๆ นี้ นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่ Wild Rift จะต้องเริ่มวางเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และไม่เพียงแต่หยุดนิ่งอยู่กับชัยชนะที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ League of Legends

อนาคตข้างหน้า

เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ทีมงานจะมาร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายต่อไปนี้:

1. แก้ไขปัญหาบนมือถือที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเข้าเล่นเกมได้ 

2. ค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาพื้นฐานเกี่ยวกับ MOBA

3. ปรับปรุงการจับคู่: อุปสรรคใหญ่ของเกมที่มีการแข่งขัน

เตรียมตัวรับโชคลาภ

ในแวดวงเกมมือถือ เกมที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังเปิดตัว และท้าทายวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ทั่วไป ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ: เกมเหล่านั้นมีความพร้อมที่จะคว้าโอกาสเมื่อพวกเขา... บังเอิญโชคดี

โชคคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อการเตรียมพร้อมมาเจอกับโอกาส - Seneca

แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นที่เคยอยู่ในช่วงขาลง จากนั้นจู่ ๆ ก็พัฒนาจนก้าวข้ามจุดสูงสุดเดิมและไปสู่จุดสูงสุดใหม่โดยอาศัยนวัตกรรมที่นำมาใช้งานได้เป็นอย่างดี

ด้วยพลังแห่งการมองย้อนกลับไป เรามักจะสามารถนำความสำเร็จเหล่านี้ไปอธิบายได้ด้วยการกระทำหรือแสดงเป็นฟีเจอร์ต่าง ๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้ แต่ก็มีข้อกำหนดเบื้องต้นอย่างหนึ่ง: เกมเหล่านี้ต้องพร้อมที่จะดึงดูดฐานผู้เล่นได้ 5 หรือ 10 เท่า เกมเหล่านี้มีผู้เล่นหน้าใหม่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก การทำให้สามารถดาวน์โหลดได้อย่างราบรื่น การแนะนำที่มีความใส่ใจ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ยืดหยุ่นซึ่งยินดีจะต้อนรับผู้เล่นใหม่ทุกคนเข้าสู่เกม การมีพื้นฐานแอพมือถือที่มั่นคงหมายความว่าเมื่อเกมเหล่านี้ได้รับการพัฒนา พวกเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากโชคของพวกเขาได้ จากจุดที่เรายืนอยู่ทุกวันนี้ ยังคงมีงานอีกมากมายที่ต้องทำก่อนที่ Wild Rift จะพร้อมสำหรับโชคที่ว่า

เมื่อเข้าสู่ปี 2025 เป้าหมายอันดับหนึ่งของเราคือการทำให้การเล่น Wild Rift ราบรื่นเท่ากับการเล่นเกมมือถือสมัยใหม่เกมอื่น ๆ ประสบการณ์ของคุณอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาคของคุณ แต่คาดหวังได้เลยว่าเราจะลงทุนใน:

• การล็อกอินและบัญชี 

• ดาวน์โหลดและอัปเดต 

• เครือข่ายและความหน่วง

ในขณะนี้มีความท้าทายอยู่ทุก ๆ ด้านที่ทำให้ระยะเวลาระหว่างผู้เล่นที่ต้องการสัมผัส Wild Rift และการเล่นแล้วสนุกไปกับมันยาวนานขึ้นอย่างมาก เราเรียกสิ่งนี้ว่าตัวชี้วัด ‘เวลาจนกว่าจะสนุก’ เนื่องจากเราได้ลด ‘เวลาจนกว่าจะสนุก’ ลง คาดว่าคุณจะได้พบกับ:

• การล็อกอินที่เสถียรขึ้น

• เวลาดาวน์โหลดที่สั้นลง

• การขัดข้องของเกมและปัญหาอัปเดตที่น้อยลง

• ความหน่วงที่น้อยลง

การแก้ไขปัญหาพื้นฐานเหล่านี้และลด “เวลาจนกว่าจะสนุก” ลงอย่างมากจะมีผลที่ชัดเจนต่อ Wild Rift และทำให้เราพร้อมที่จะลองนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น และทำให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเพื่อรับโชค

MOBA มันเป็นแบบนี้

บทเรียนสำคัญประการหนึ่งที่เราได้รับนับตั้งแต่ Wild Rift ถือกำเนิดขึ้นก็คือ หากเราเดินตามเส้นทางที่ผ่านการพิสูจน์และเป็นที่ยอมรับซึ่ง League of Legends PC ได้วางไว้ให้ เราก็จะจำกัดตัวเองอยู่ภายใต้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มย่อย ๆ เท่านั้น เกม MOBA ทุกเกมในตลาดกำลังมองไปที่วิวัฒนาการครั้งต่อไปของสูตรในปัจจุบัน และมันเป็นการแข่งขันเพื่อดูว่าใครจะไปถึงตรงนั้นเป็นอันดับแรก

ใน Wild Rift นี้ เราพบว่าเกม MOBA เป็นประเภทเกมที่มีมายาวนานและพร้อมสำหรับนวัตกรรมใหม่ แม้ว่าจะมีข้อได้เปรียบโดยธรรมชาติที่ช่วยให้เกมประเภทนี้ยังคงมีความนิยมมานานกว่าสองทศวรรษ แต่ยังมีความท้าทายพื้นฐานที่สามารถผลักไสผู้เล่นออกไปได้เช่นกัน

อะไรที่ทำให้เกม MOBA น่าทึ่ง?

• ความสามารถในการเล่นซ้ำได้ไม่สิ้นสุด โดยที่ฟีเจอร์ใหม่แต่ละอย่างจะมีการโต้ตอบกับคอนเทนต์ที่มีอยู่ได้แทบจะเป็นอนันต์

• เส้นทางและการทดสอบทักษะที่หลากหลายซึ่งอาจนำไปสู่ความได้เปรียบหรือชัยชนะ

• เกมเพลย์เป็นทีมที่มีกลยุทธ์ล้ำลึก

• ความคืบหน้าของเกม RPG ในเกมที่ปรับปรุงใหม่ มีวงจรเริ่มจากศูนย์สู่การเป็นฮีโร่ที่สม่ำเสมอในทุก ๆ เกม

เราเชื่อว่าจุดแข็งโดยธรรมชาติของเกม MOBA คือสิ่งที่ทำให้เกมแนวนี้มีอายุยืนยาวกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีแนวเกมใหม่ ๆ เกิดขึ้น และรสนิยมและความต้องการของผู้เล่นก็พัฒนาขึ้น เราจึงพบกับความท้าทายที่พยายามจะโค่นล้มคุณค่าที่เกม MOBA นำมาให้กับผู้เล่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ความท้าทายพื้นฐานของเกม MOBA คืออะไร?

• เงื่อนไขการชนะผลรวมเป็นศูนย์

  • การที่คุณชนะ ก็แปลว่าฉันที่เป็นผู้แพ้นั้นเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดและชวนเครียดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผลลัพธ์ของเกมไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นคนเดียวจะสามารถการันตีได้

• ปัญหาการไม่ยอมรับช่องว่างทักษะและจุดที่อ่อนที่สุด

  • แม้ว่าการประสานงานในทีมจะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและน่าทึ่งเมื่อเกิดขึ้น แต่ความสำคัญของมันยังหมายถึงการที่ผู้เล่นเพียงแค่คนเดียวก็สามารถทำลายแผนการของผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมได้ ขอขโมยคำพูดจากซีรีส์ Fallout ที่ว่า “ทุกคนอยากจะช่วยโลก แต่พวกเขาแค่มีวิธีการที่ไม่ตรงกัน” 

• ขาดความก้าวหน้านอกเหนือจากความก้าวหน้าทางทักษะ

  • ข้อบกพร่องโดยธรรมชาติของเกมการแข่งขันส่วนใหญ่ก็คือ หากคุณไม่ชนะ คุณไม่เพียงแต่จะไม่ก้าวหน้าเท่านั้น แต่คุณยังถอยหลังลงในเส้นทางการจัดอันดับอีกด้วย ในขณะที่แรงกดดันนี้เพิ่มคุณค่าอย่างมากให้กับความสำเร็จของคุณในช่วงท้ายของซีซั่น แต่ก็ทำให้เกิดความวิตกกังวลและลดคุณค่าของเวลาที่คุณใช้ไปกับเกมเช่นกัน

• 100% ตลอดเวลา ทนกับสิ่งรบกวนไม่ไหว

  • ความท้าทายที่เด่นชัดกว่าเมื่ออยู่บนโทรศัพท์ นอกจากมันจะเป็นอุปกรณ์เล่นเกมของคุณแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มการส่งอาหาร แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ปฏิทิน และแพลตฟอร์มการใช้ชีวิตของคุณอีกด้วย การขอให้คุณหลีกเลี่ยงโลกภายนอกขณะใช้โทรศัพท์นั้นเป็นเรื่องยากยิ่ง เพราะยังมีโอกาสมากมายที่ชีวิตจริงจะมาเยือนคุณ

เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?

การพิจารณาแนวเกมผ่านรายการข้อดี/ข้อเสียนี้ทำให้ทีมสามารถวางแผนการดำเนินการได้ชัดเจนขึ้นว่า เราจะรักษาสิ่งที่ทำให้เกม MOBA น่าทึ่งได้อย่างไร ในขณะเดียวกันก็แก้ไขปัญหาโดยธรรมชาติของแนวเกมดังกล่าวอย่างสร้างสรรค์ เพื่อจุดประสงค์นี้ ต่อไปนี้คือพื้นที่โฟกัสของเรา:

1. รักษาและพัฒนาประสบการณ์ Summoner’s Rift ที่มีอยู่แล้ว

   • จะมีสถานที่และความปรารถนาให้คุณได้ทดสอบความสามารถของคุณในประสบการณ์ Summoner’s Rift แบบคลาสสิกอยู่เสมอ นี่คือมรดกที่ทำให้ Wild Rift น่าทึ่ง และเราไม่มีแผนที่จะล้มล้างและทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป คาดหวังให้เราปรับแต่งและปรับปรุงประสบการณ์ Summoner’s Rift อย่างต่อเนื่องได้เลย

2. สร้างสรรค์วงจรเกมเพลย์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็วผ่านโหมดเกมต่าง ๆ

   • แม้ว่า SR จะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่เรายังไม่เชื่อว่านี่คือรูปลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวของ MOBA โดยคำนึงถึงสิ่งนั้น คาดหวังได้เลยว่าเราจะสำรวจวิธีใหม่ ๆ มากมายเพื่อให้แชมเปี้ยนที่คุณชื่นชอบได้โต้ตอบกันในสถานการณ์ใหม่ ๆ Hex ARAM และ Arena เป็นตัวอย่างของการสำรวจเหล่านี้ แต่คาดว่า Wild Rift จะบ้าคลั่งยิ่งขึ้นด้วยแผนที่และโหมดเกมในอนาคต เราจะประเมินโอกาสในการยกระดับกลไกบางอย่างจากประสบการณ์ใหม่เหล่านี้ไปสู่ประสบการณ์หลักเมื่อเราเชื่อว่าถึงเวลาแล้ว ดังนั้น คำติชมของคุณตลอดกระบวนการจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง!

3. กำหนดเส้นทางความก้าวหน้าที่ได้รับการยอมรับใหม่

   • คล้ายกับเกมเพลย์ SR แบบคลาสสิก เราจะรักษาระดับการเชิดชูและสิทธิพิเศษระดับของ Ranked อยู่เสมอ เราแค่เชื่อว่ามันไม่ควรจะเป็นการแสวงหาเพียงทางเดียวที่สมควรได้รับการเฉลิมฉลอง นี่อาจเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดที่จะเอาชนะ แต่ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะเป็นรากฐานที่เชื่อมโยงประสบการณ์การเล่นเกมใหม่เข้าด้วยกันให้กลายเป็นเซสชันเกมที่มีความหมาย คาดหวังให้เรากำหนดวิธีการจับคู่ใหม่ ๆ เส้นทางความก้าวหน้าใหม่ ๆ และรางวัลใหม่ ๆ เพื่อเป็นการยอมรับเวลาที่คุณทุ่มเทมาให้

การพยายามที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบเกมแนว MOBA จะต้องเป็นความพยายามในระยะยาว เนื่องจากปัญหาพื้นฐานบางประการเหล่านี้ แต่ไม่ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใด ๆ เราก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และเราหวังว่าคุณจะร่วมเดินทางไปกับเราโดยพร้อมเพรียงกัน

ระบบการจับคู่

ประการแรก เราจะไม่ลงโทษคุณจากการชนะ

ฉันต้องขอระบายความรู้สึกนั้นออกมาสักหน่อย และเมื่อความจริงข้อนี้ถูกเปิดเผยออกไป ปัญหาเรื่องการจับคู่ก็ยังคงเป็นหัวข้อสนทนาหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่วันแรก การจับคู่ถือเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนอย่างหนัก และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการปรับปรุงการจับคู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่ในจุดที่ต้องถกเถียงกัน ทำไมเป็นแบบนั้น?

สองสามปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบจับคู่ของ Wild Rift โดยเราได้พูดคุยถึงความแตกต่างระหว่างการจับคู่ด้วย Elo กับทักษะ นอกเหนือจากตัวจับคู่ที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ส่งผลต่อการรับรู้ของคุณว่าเกมนี้ยุติธรรมหรือไม่ และคุ้มค่ากับการทุ่มเวลาและพลังงานของคุณหรือไม่

• ปัจจัยตัวจับคู่

  • “ทักษะ” วัดได้อย่างไร

  • MMR ทำงานอย่างไร

• ปัจจัยการรับรู้ความยุติธรรม

  • ความเร็วในการหาแมตช์

  • จังหวะการสโนว์บอลเป็นอย่างไรบ้าง ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นหรือไม่

  • ประสบการณ์ไต่ Ranked ทำงานอย่างไร หรือก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากชนะ/แพ้

• บริบทจากแมตช์หนึ่งไปสู่แมตช์ถัดไป

  • การแข่งขันตึงเครียดหรือเสียสมดุลจากเลนไปสู่ทีมไฟต์หรือไม่

  • คุณเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมคุณถึงชนะหรือแพ้แมตช์

การจับคู่และการรับรู้ความยุติธรรมนั้นมีความสัมพันธ์กันแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน Wild Rift เป็นเกมแนว MOBA ที่เน้นการทำงานเป็นทีม ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าเราจะต้องรวมผู้เล่น 10 คนที่มีความสามารถด้านกลไกเท่า ๆ กันมาอยู่ด้วยกัน ทีมที่มีการผสมผสานและการประสานงานทีมที่ดีกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะในที่สุด บังเอิญว่าเครื่องมือการตรวจจับทั้งหมดของเราขึ้นอยู่กับผลเกมที่ผ่านมาและประสิทธิภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งไม่ได้วัดประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันเป็นทีมและการประสานงานโดยเฉพาะ โดยพื้นฐานแล้ว การที่ทีมของคุณสามารถประสานงานกันได้ดีเพียงใดมักจะเป็นเรื่องที่พึ่งดวง 

การใช้สมองในการเล่นเพื่อทีมหรือการเต็มใจเสียสละเพื่อทีมมักเป็นทักษะที่ซ่อนอยู่ซึ่งไม่ได้รับการเฉลิมฉลองมากนัก และในขณะที่เราจะยังคงทำงานอย่างหนักในการพยายามทำให้การเริ่มต้นเกมทุกเกมมีโอกาสชนะที่ยุติธรรม 50/50 เราก็เชื่อว่ายังมีช่องทางอื่น ๆ ที่เราสามารถพิจารณาเพื่อปรับปรุงการรับรู้โดยรวมด้านความยุติธรรมได้ ท้ายที่สุดแล้ว… อย่างที่ Viktor เคยพูดว่า “ไม่มีรางวัลสำหรับความสมบูรณ์แบบ… มีเพียงจุดสิ้นสุดของการแสวงหาเท่านั้น” และเรายังคงห่างไกลจากจุดสิ้นสุดอยู่มาก

การปรับแต่งตัวจับคู่

ความพยายามครั้งต่อไปของเราจะพยายามค้นหาสมดุลระหว่างการจับคู่สำหรับทีมทั้งหมดกับการจับคู่สำหรับเลนเฉพาะของคุณ ทุกคนล้วนเคยมีเกมที่พวกเขาครองเลนได้ สังหารฝ่ายตรงข้ามด้วยตัวคนเดียวได้หลายครั้ง แต่เลนของพันธมิตรกลับเละเทะ ในกรณีนี้ แม้ในทางเทคนิคแล้ว โอกาสที่คุณจะชนะจะยังคงอยู่ที่ 50% แต่สำหรับสมาชิกในทีมแต่ละคน กลับรู้สึกเหมือนว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่สมดุล เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว เราจึงมองหาการเพิ่มน้ำหนักให้กับการจับคู่แบบเลนต่อเลน มากกว่าการจับคู่โดยรวม และเมื่อพิจารณาจากการพูดคุยก่อนหน้านี้ว่าการประสานงานของทีมจะส่งผลต่อโอกาสที่ทีมจะชนะมากเพียงใด เราจึงมองทิศทางนี้กันในแง่บวก เรากำลังจะเริ่มทดสอบระบบจับคู่ใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ และจะรายงานให้คุณทราบเมื่อเรามีข้อมูลเพิ่มเติม

ความเร็วของการจับคู่และไอเดียสุดบรรเจิดอื่น ๆ

ลองนึกภาพว่าคุณต้องนั่งรอคิวเป็นเวลานานกว่าสาม ห้า หรือสิบนาที จากนั้นเกมที่คุณอดทนรอก็จบลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการแก๊งที่ไม่ค่อยดีในช่วงเลเวลแรก ๆ หรือเล่นพลาดในการต่อสู้กับมังกรครั้งแรก แม้ว่าจะมีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างความเร็วและความแม่นยำในการจับคู่ แต่เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของการจัดทีมและการประสานงานในแต่ละเกม เราจึงมุ่งเน้นไปที่การจับคู่ที่รวดเร็วขึ้นซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังจะมีบางกรณีที่เราเจตนาจะให้ความสำคัญกับความยุติธรรมทางสถิติ เช่นใน Legendary Queue สำหรับกรณีอื่น ๆ ส่วนใหญ่ เราจะให้ความสำคัญกับความเร็วโดยมีผลกระทบต่อความแม่นยำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกเหนือจากการปรับปรุงพื้นฐานเหล่านี้ เรายังกลับไปสู่แนวคิดการทดลอง เพื่อค้นหาวิธีรับมือกับปัญหาการจับคู่ที่น่าชิงชังนี้ ตัวอย่างอาจมีลักษณะเช่นนี้:

• การทดลองล่าสุดของเราด้วย Galio's Aegis เป็นหนทางที่จะทำให้คุณมีอำนาจตัดสินใจมากขึ้น เราเข้าใจว่ามันน่าหงุดหงิดแค่ไหนเมื่อคุณรู้สึกว่าคุณได้ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถก้าวหน้าใน Ranked ได้ เรายังคงประเมินประสิทธิผลของการทดสอบเบต้านี้ และจะรายงานผลให้ทราบในภายหลัง 

• ยอมรับว่าการจับคู่ไม่มีทางจะยุติธรรมได้ 100% เมื่อทีมที่ไม่น่าจะชนะได้พลิกสถานการณ์กลับมา เราไม่เพียงแค่ปรับเปลี่ยน MMR ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังหาวิธีอื่น ๆ ที่จะแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น 

• โหมดเกมต่าง ๆ เช่น Arena ที่มีระบบการต่อสู้แบบ Battle Royale จะเลี่ยงธรรมชาติของ MOBA ที่มีผลรวมเป็นศูนย์ และมอบนิยามใหม่แห่งชัยชนะ

ท้ายที่สุดแล้ว เราพบว่าระบบจับคู่เป็นหนึ่งในอุปสรรคหลักที่ทำให้เราไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ MOBA ได้ ดังนั้น เราจึงต้องลงทุนทรัพยากรเพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิผล น่าเสียดายที่ไม่มีวิธีง่าย ๆ และยังต้องใช้เวลาในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ

หากคุณอ่านมาไกลขนาดนี้ ขอบคุณจริง ๆ! เรารู้สึกขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่คุณมอบให้กับเรา การมีพวกคุณทุกคนอยู่เคียงข้างทำให้การทำงานของเรามีความหมายมากยิ่งขึ้น และเราแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

ไว้เจอกันใน Rift นะ!